เรื่องราวของอัญมณีเครื่องประดับเป็นของคู่กับมนุษย์มานานหลายพันปีมาแล้ว ปัจจุบันเรามีสีงเหล่านี้ประดับกาย อาจเป็นแหวน จี้ห้อยคอ สายสร้อย ต่างหู กำไลข้อมือสวมใส่สีงเหล่านี้เพื่ออะไรนอกจากความสวยงาม Pala จับสาระประเด็นเคล็ดลับเรื่องนี้มาเล่าสู่ฟัง
แหวน เป็นสัญลักษณ์แห่งนิรันดรกาลการกลับมาพบกันใหม่ ใช้เป็นสีงปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่ เป็นสัญลักษณ์แห่งคู่ครองและการรวมกลุ่ม(เช่นแหวนประจำรุ่น) แหวนเป็นเอกลักษณ์แห่งเวทย์มนต์ เกี่ยวเนื่องกับจักราศรี พลังหยิน - หยาง กว่า 2500 ปีมาแล้วในสมัยบาบิโลน ยุคกรีกโรมัน แหวนเป็นเอกลักษณ์ของชนชั้นสูง แต่ปัจจุบันเชื่อว่าขณะประกอบพิธีกรรมต่างๆ โดยเฉพาะขณะรับพลังจากผู้รู้ เช่น เข้าพิธีปลุกพระ ควรสวมใส่อัญมณีหรือหินสีให้ติดตัวไว้ เพื่อเป็นการเพิ่มพลังให้กับพลอย หรือหินนั้นๆ และกับตัวเอง การสวมแหวนก่อให้เกิดพลัง ขึ้นอยู่กับชนิดของพลอย หรือหิน และโลหะที่ประกอบเป็นแหวน ร่วมกับความประพฤติปฏิบัติของผู้สวมใส่
ฉะนั้นนิ้วที่สวมแหวนจึงเป็นสีงที่ต้องพิจารณา
- นิ้วชี้ เป็นนิ้วแห่งพลังอำนาจบารมี เมื่อท่านต้องควบคุมงานบังคับบัญชาผู้คนจำนวนมาก ควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ และแหวนนั้นควรประกอบด้วยพลอย และหินหลายชนิดที่ส่งเสริมบารมีต่อกัน
- นิ้วกลาง เป็นนิ้วที่ไม่ควรสวมใส่แหวน ถือว่าอับโชค ในอเมริกาผู้สวมใส่แหวนนิ้วกลางจะได้รับการดูแคลน แต่ในแถบเอเซียการสวมใส่แหวนที่นิ้วกลางเชื่อว่าจะเรียกทรัพย์รับเงินรับทองได้ดี ซึ่งเป็นการเชื่อที่ตรงข้ามกับทางทวีปอเมริกาอย่างสิ้นเชิง
- นิ้วนาง เชื่อว่าเป็นนิ้วที่ประสานต่อเชื่อมกับหัวใจ ทำให้ร่างกายสุขสมบูรณ์จิตใจปลอดโปร่งแจ่มใส และมีความเจริญรุ่งเรือง ฉะนั้นแหวนแต่งงานจึงสวมใส่ที่นิ้วนาง
สายสร้อยคอ เสมือนเป็นแหวนวงใหญ่สวมรอบคอพละพลังและการใช้เหมือนแหวน เนื่องจากสวมใกล้หัวใจจึงใช้เกี่ยวกับความรู้สึก นึกคิด จิตใจเพื่อดึงดูดส่งเสริม ความรักระลึกถึง เมตตาปราณี เอื้ออาทรต่อกัน ถ้าต้องการให้เกิดพละพลังสูงส่งต่อตัวเองควรสวมสร้อยคอให้ติดผิวกายจี้ห้อยคอที่คล้องติดกับสร้อยคอควรให้อยู่ที่จักระ 4คือ บริเวณหัวใจ หรือ ที่ต่อมทัยมัสซึ่งเป็นจักระหนึ่งของกลุ่มฮาราจักระ ซึ่งจะช่วย กระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคเหมาะกับผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ เลือกใช้จี้ห้อยคอให้ถูกกับคุณสมบัติที่ต้องการ
สร้อยข้อมือ และกำไล เปรียบเสมือนแหวนวงใหญ่อีกวงเช่นกันสวมใส่ใช้อยู่ติดกับชีพจรบนข้อมือสื่อถึงความรู้สึกลึกเข้าสู่จิตใจ ผู้รู้บอกว่ามือซ้ายคือการรับเข้าส่วนมือขวาคือการส่งออกจึงควรต้องเลือกข้างที่สวมใส่ หากใช้ใส่เพื่อป้องกันตัวเองจากพลังด้านลบอื่นๆที่เกรงว่าจะกระทบเข้าสู่ตัวเราเองก็เลือกหินหรืออัญมณีที่คุณสมบัติในด้านป้องกันเช่นลาพิส ลาซูลีหรือแก้วขนเหล็กที่ทำเป็นกำไลหรือสร้อยข้อมือสวมใส่ไว้ที่ข้อมือซ้าย แต่ผู้ที่มีจุดประสงค์ในด้านการบำบัดก็สวมใส่ที่ข้อมือขวาเพื่อให้หินที่เป็นกำไลหรือสร้อยข้อมือทำหน้าที่ดึงดูดโรคภายในกายออกไป จึงควรใช้เป็นชนิดคริสตัลใสเป็นต้น
ต่างหู เป็นการคุ้มครองป้องกันตัวเองจากสีงไม่พึงประสงค์และอาการเจ็บป่วยกระตุ้นจักระที่ 6 และ 5 เป็นการบรรเทาอาการของอวัยวะเกี่ยวกับทางเดินหายใจและกระตุ้นเตือนญาณหยั่งรู้กระตุ้นออร่าบริเวณส่วนบนของร่างกาย เป็นการปกป้องคุ้มครองและสรรสร้างสติปัญญา
ไม่ว่าแหวนหรืออัญมณีเครื่องประดับทั้งหลาย ควรเลือกสรรขนาดรูปลักษณ์เหมาะกับตัวเองก่อนจะเอาหินหรืออัญมณีใดๆไปใส่เข้าตัวเรือนให้ทดลองจับด้วยมือซ้ายนึกถึงพลังของหินหรืออัญมณีชิ้นนั้นเข้าสู่ฝ่ามือสังเกตุพลังที่เข้ามาควรเป็นพลังที่เยือกเย็น สุขสบาย ตัวเรือนควรว่างเว้นช่องว่างที่ตัวเรือนเพื่อให้เนื้อหินใกล้ชิดสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง เช่น ตัวแหวนควรเจาะรูที่โลหะใต้เนื้อหินอัญมณีทุกชนิดไม่ควรเจาะรูทะลุ เป็นการปล่อยให้พลังเคลื่อนไหลออกไปเปล่าประโยชน์ส่วนสายสร้อยคอประกอบด้วยเม็ดหินเจาะรูร้อยติดต่อเป็นวงกลมเพื่อสวมคอพละพลังจากเม็ดหินจะเคลื่อนไหลเป็นวงต่อกัน
อัญมณีพลอยหินต่างๆ ควรชำระล้างเสมอๆ ให้ได้รับพลัง เมื่อจะให้สีงเหล่านี้เป็นของกำนัลแก่ผู้ใด จงตั้งจิตถือไว้ด้วยใจ
เห็นภาพผู้รับสีงนั้นมีความสุข สงบสันติ สดชื่นแจ่มใส เจริญรุ่งเรือง สำเร็จสมประสงค์